unBoxed 2024: Amazon DSP ประกาศเทคโนโลยีการโฆษณายุคใหม่เพื่อการเข้าถึงแบบเต็ม funnel และประสิทธิภาพที่แม่นยำ
Amazon เผยโฉมประสบการณ์ Amazon DSP แบบใหม่ทั้งหมด ความสามารถในการทำงานร่วมกันที่ปรับปรุงใหม่ และการปรับแคมเปญให้เหมาะสมที่เรียบง่ายเพื่อการเข้าถึงแบบเต็ม Funnel
15 ตุลาคม 2024
ที่งาน unBoxed 2024 ทาง Amazon Ads ได้ประกาศชุดนวัตกรรมต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ของ Amazon (Amazon DSP) ที่ขับเคลื่อนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเต็ม funnel ที่แม่นยำ ด้วยการวางแผนแคมเปญและการปรับแคมเปญให้เหมาะสมอย่างมีประสิทธิภาพ Amazon Ads มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและโดดเด่นเกี่ยวกับเส้นทางที่ลูกค้าใช้ ตั้งแต่การรับรู้ไปจนถึงคอนเวอร์ชัน และส่งมอบความสามารถที่ทุกแบรนด์สามารถใช้สร้างและกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำกัดขนาดของธุรกิจ สินค้า หรือประเภทบริการที่ขาย
“ภาพรวมการโฆษณาดิจิทัลกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยสตรีมมิ่งทีวีกลายเป็นกระแสหลัก ขณะที่การเข้าถึงและการตรวจวัดข้ามช่องทางแบบเต็ม funnel ได้กลายเป็นศูนย์กลาง เรากำลังคิดค้นเทคโนโลยีการโฆษณาที่ช่วยให้ผู้โฆษณาทุกคนเข้าใจวิวัฒนาการนี้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการเข้าถึงที่แม่นยำ ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกมากขึ้น และการตรวจวัดโดยตรง” Kelly MacLean รองประธานของ Amazon DSP กล่าว “Amazon DSP สามารถขับเคลื่อนผลลัพธ์จากบนลงล่างบนสินค้าและบริการของ Amazon เช่น ร้านค้า และ Prime Video ตลอดจนแอปสตรีมมิ่งและผู้เผยแพร่ระดับพรีเมียมชั้นนำ เราหวังว่าจะได้เห็นผู้โฆษณาใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ประกาศในวันนี้เพื่อกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจและมีส่วนร่วมกับลูกค้าให้มากขึ้น”
ปรับปรุงการใช้งานและความสะดวกในการใช้งาน
ในการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผู้โฆษณา Amazon DSP กำลังเปิดตัวประสบการณ์ผู้ใช้ใหม่ด้วยเวิร์กโฟลว์ที่เรียบง่าย เพื่อให้สามารถสร้างแคมเปญได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ในการทดสอบช่วงแรก คุณสมบัติของรายการโฆษณาดิสเพลย์โดยรวมใหม่ช่วยลดเวลาตั้งค่าแคมเปญลงได้ 75% คุณสมบัตินี้รวบรวมพื้นที่โฆษณาดิสเพลย์บนเดสก์ท็อป มือถือ และแอปไว้ในโฆษณารายการเดียว ทำให้เปิดและติดตามการรายงานได้ง่ายขึ้น
เมื่อผู้โฆษณาไปที่หน้าภาพรวมสถานะของแคมเปญ ตอนนี้พวกเขาจะเห็นการ์ดข้อมูลเชิงลึกใหม่และคำแนะนำจากแมชชีนเลิร์นนิ่ง ที่ช่วยให้ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญและปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ผู้โฆษณาอาจเห็นการ์ดข้อมูลเชิงลึกที่แสดงว่าแคมเปญของตนกำลังแสดงผลน้อยเกินไป พวกเขาสามารถตรวจสอบคำแนะนำที่แนบมาและคลิกเพื่อปรับแคมเปญให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ Amazon DSP จะรวบรวมและขยายการ์ดเหล่านี้ภายในฮับการจัดการแคมเปญใหม่ในปี 2025
การปรับปรุง Amazon DSP ยังรวมถึงการควบคุมความถี่สูงสุดใหม่และการรายงานที่จะทำให้การจัดการความถี่ง่ายขึ้น ขณะนี้ผู้โฆษณาสามารถใช้คุณสมบัติกลุ่มความถี่เพื่อจัดการความถี่สูงสุดของตนแบบองค์รวมในแคมเปญ ช่องทาง และอุปกรณ์จำนวนมากได้ เช่น กำหนดความถี่สูงสุดของโฆษณาในระดับครัวเรือน ผู้โฆษณาที่ใช้การควบคุมความถี่สูงสุดเหล่านี้สามารถประหยัดงบประมาณของแคมเปญได้ 26% จากการใช้จ่ายกับจำนวนการแสดงผลของโฆษณาที่ซ้ำซ้อน และเพิ่มการเข้าถึงได้สูงถึง 21%
“ความสามารถด้านการจัดการความถี่และความถี่เป้าหมายของ Amazon DSP นั้นเหนือกว่า DSP อื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายงานข้อมูลเชิงลึกความถี่สูงสุดเป็นรายงานที่มีการไตร่ตรองอย่างรอบคอบมากที่สุดที่เราเคยเห็นในบรรดา DSP ทั้งหมด” Megan Pagliuca ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกระตุ้นการมีส่วนร่วมของ Omnicom Media Group กล่าว

ปรับปรุงการทำงานร่วมกันในเทคโนโลยีการโฆษณาของ Amazon
นอกจากนี้ Amazon Ads ยังเปิดตัวตัวจัดการข้อมูลโฆษณา อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายนี้ช่วยให้ผู้โฆษณาอัปโหลดสัญญาณของตนอย่างปลอดภัยได้ในครั้งเดียว จากนั้นใช้สัญญาณเหล่านั้นใน Amazon DSP และระบบคลาวด์การตลาดของ Amazon (AMC) เพื่อมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง วัดผลคอนเวอร์ชัน และปรับแคมเปญให้เหมาะสม มีการผสานรวมกับผู้ให้บริการอย่าง Treasure Data, Salesforce และ Tealium ดังนั้นผู้โฆษณาจึงสามารถนำเข้าข้อมูลบุคคลที่หนึ่งได้จากทุกที่ที่จัดเก็บไว้ ปัจจุบันผู้โฆษณาสามารถใช้ตัวจัดการข้อมูลโฆษณาเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลบุคคลที่หนึ่งกับกลุ่มเป้าหมาย Amazon DSP คุณสมบัตินี้จะผสานรวมกับ Amazon DSP และ AMC โดยสมบูรณ์ในปี 2025
การผสมผสานอันทรงพลังของ AMC, Amazon DSP และ Amazon Publisher Cloud ทำให้ตอนนี้ผู้โฆษณาสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเองที่เหมาะกับเป้าหมายธุรกิจของตน จากนั้นซ้อนทับสัญญาณจาก Amazon Ads และผู้เผยแพร่บุคคลที่สามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกันโดยตรงนี้สร้างวิธีใหม่สำหรับผู้โฆษณา ในการเปิดตัวข้อตกลงที่ปรับปรุงกับผู้เผยแพร่บุคคลที่สามระดับพรีเมียมโดยใช้กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง ซึ่งเสริมด้วยสัญญาณที่แม่นยำจากผู้เผยแพร่และ Amazon Ads เพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องและประสิทธิภาพของแคมเปญ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Xmars เปิดใช้งานแคมเปญสำหรับ Bedsure ด้วยกลุ่มเป้าหมาย AMC และ Amazon Publisher Cloud ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยสัญญาณจากผู้เผยแพร่ชั้นนำ ส่งผลให้การเข้าถึงเพิ่มขึ้น 2.2 เท่าในกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการ นอกจากนี้ ต้นทุนการเข้าถึงลูกค้าที่แบรนด์ต้องการยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นประมาณ 50% Tony Wang ผู้ร่วมก่อตั้ง Xmars กล่าวว่า "การทำให้ต้นทุนสื่อกระตุ้นผลลัพธ์ได้สูงสุดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา" "เราสามารถปลดล็อกคุณค่าที่มากยิ่งขึ้นบน Amazon DSP โดยใช้ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพันธมิตรแบรนด์ของเราในการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยกับสัญญาณของ Amazon Ads พร้อมข้อมูลเชิงลึกจากผู้ออกอากาศชั้นนำเพื่อสร้างดีลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สิ่งนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญทั่วทั้ง funnel และส่งมอบมูลค่าที่มากขึ้นให้กับผู้โฆษณา”

ดึงข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งออกมาโดยใช้การอัปโหลดผ่าน UI ของเรา, API ของ Amazon Ads หรือโดยการเชื่อมต่อผ่านหนึ่งในพันธมิตรการผสานรวมของเรา อย่างเช่นแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า
การปรับแคมเปญให้เหมาะสมที่ง่ายขึ้นจากประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI
Amazon Ads ยังได้ประกาศถึงการปรับปรุง Performance+ ซึ่งเป็นความสามารถในการปรับแคมเปญให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติที่ทำงานแบบเปิดเสมอภายใน Amazon DSP Performance+ ใช้สัญญาณจากผู้โฆษณาร่วมกับ AI คาดการณ์ เพื่อทำให้การปรับแคมเปญให้เหมาะสมและความเกี่ยวข้องของกลุ่มเป้าหมายเป็นแบบอัตโนมัติ สำหรับเป้าหมายระดับล่างของ funnel เช่น คอนเวอร์ชันและการได้ลูกค้าใหม่ โดยจะตั้งค่าแคมเปญ สร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง และปรับแคมเปญให้เหมาะสมตาม KPI ที่ผู้โฆษณาระบุไว้อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์จนถึงปัจจุบันได้แสดงให้เห็นว่า Performance+ กระตุ้นการปรับปรุงต้นทุนการได้ลูกค้าใหม่ได้ถึง 51% โดยเฉลี่ย
กลยุทธ์ Performance+ ใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในรุ่นเบต้าแบบเปิด จะขยายกลยุทธ์แคมเปญของผู้โฆษณาให้ครอบคลุมการทำตลาดซ้ำและการรักษาลูกค้าไว้ นอกเหนือจากกลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่ที่มีอยู่แล้ว ขั้นตอนการทำงานทั้งหมดได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นโดยเหลือเพียงสี่คลิก ในขณะที่ยังคงความโปร่งใส และการควบคุมการปรับให้เหมาะสมที่ยืดหยุ่น ผู้โฆษณาเพียงเลือกเป้าหมายแคมเปญของตน เช่น คอนเวอร์ชัน การรับรู้ หรือการพิจารณา เลือก KPI เช่น ราคาต่อหนึ่งการกระทำ (CPA) หรือผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) และเลือกกลยุทธ์ Performance+ ซึ่งได้แก่ การหาลูกค้าใหม่ การทำตลาดซ้ำ หรือการรักษาลูกค้า แคมเปญ Performance+ จะปรับให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องตามข้อกำหนดเหล่านี้ เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ที่เหมาะสม
Fiverr บริษัทที่เชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ทำงานอิสระ ใช้กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่ของ Performance+ เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพในแบบอัตโนมัติ ภายในหนึ่งเดือน Fiverr พบว่า CPA ลดลง 66% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ และอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็นเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเฉลี่ยของแคมเปญ