Sponsored Brands สำหรับผู้แต่ง: เรียนรู้วิธีการขยายธุรกิจของคุณ

• ด้านล่างผลลัพธ์การช้อปปิ้งสูงสุด
• ภายในผลการช้อปปิ้ง
• ในหน้ารายละเอียดสินค้า (หน้าเหล่านี้คือหน้าเว็บที่นักช้อปเห็นหลังจากคลิกที่รายการเฉพาะ)

1. ตอบสนองข้อกำหนด คุณต้องมีชื่อเรื่องที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามเรื่องขึ้นไปภายใต้ชื่อผู้แต่งคนเดียวกัน และชื่อเรื่องดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายโฆษณาสำหรับหนังสือ นอกจากนี้ หนังสือต้องปรากฏใน Author Central และหนังสือที่คุณโฆษณาจะต้องมีจำหน่ายในประเทศที่คุณกำลังโฆษณาด้วย ทำความคุ้นเคยกับแนวทางปฏิบัติและนโยบายการยอมรับของ Amazon Ads ที่นี่
2. ลงทะเบียน หากต้องการสร้างและจัดการโฆษณา คุณต้องมีบัญชี Amazon Ads คุณสามารถลงทะเบียนได้ที่นี่
3. ลงชื่อเข้าใช้ หลังจากที่คุณลงทะเบียนแล้ว คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้คอนโซลการโฆษณาเพื่อเปิดตัวหรือจัดการแคมเปญโฆษณาของคุณได้

การระบุเป้าหมายคีย์เวิร์ด: คำหรือกลุ่มคำเหล่านี้ช่วยคุณจับคู่โฆษณาของคุณกับคำถามของลูกค้า คีย์เวิร์ดที่คุณเลือกควรอธิบายถึงลักษณะต่าง ๆ ของหนังสือหรือแบรนด์ของคุณ ("ผู้แต่งในศตวรรษที่ 19" หรือ "นวนิยายโรแมนติก") เพื่อช่วยปรับปรุงความสามารถในการมองเห็นและการเข้าถึง

การกำหนดเป้าหมายสินค้า: การทำเช่นนี้ช่วยจับคู่โฆษณาของคุณกับ 1) สินค้าเฉพาะ หนังสือที่คล้ายกัน หรือหน้าสินค้าของหนังสือเหล่านี้ หรือ 2) หมวดหมู่หรือประเภททั้งหมด สินค้าที่คุณอาจเลือกไปยังเป้าหมาย หากหนังสือที่กำลังโฆษณา คือ Wuthering Heights อาจเป็น ASIN สำหรับ Jane Eyre ตัวอย่างเช่น ในขณะที่หมวดหมู่ที่จะกำหนดเป้าหมายอาจเป็น "นิยายคลาสสิก" "นิยายโรแมนติกสไตล์โกธิก" หรือ "นิยายวรรณกรรม"

เมื่อสร้างโฆษณา Sponsored Brands คุณจะต้องพิจารณาว่าต้องการให้โฆษณาของคุณตรงกับสิ่งที่ผู้ซื้อกำลังมองหาผ่านคำค้นหาในการช้อปปิ้งมากเพียงใด และมีคำหรือสินค้าใด ๆ ที่คุณต้องการหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงด้วยหรือไม่ หากต้องการทำสิ่งนี้ คุณสามารถใช้เครื่องมือต่อไปนี้:

ประเภทการจับคู่: การดำเนินการนี้จะกำหนดว่าคำค้นหาของลูกค้าจะต้องตรงกับคีย์เวิร์ดมากน้อยเพียงใดเพื่อให้โฆษณาแสดงได้ คุณจะระบุประเภทการจับคู่ที่คุณต้องการใช้ ได้แก่ แบบกว้าง กลุ่มคำ หรือแม่นยำ

• จับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้าง: คำค้นหานี้สามารถมีคีย์เวิร์ดในลำดับใดก็ได้ รวมถึงเอกพจน์ พหูพจน์ รูปแบบต่าง ๆ คำพ้องความหมาย หรือคำที่เกี่ยวข้อง คีย์เวิร์ดเองอาจไม่อยู่ในคำค้นหาในการการช้อปปิ้งของลูกค้า ตัวอย่างเช่น คีย์เวิร์ด "นวนิยายคลาสสิก" อาจตรงกับคำค้นหาที่กว้างกว่า เช่น "หนังสือคลาสสิก” หรือ "นวนิยายสยองขวัญคลาสสิก” หรือ "วรรณกรรมศตวรรษที่ 19" คุณควรเลือกตัวเลือกนี้เพื่อขยายขอบเขตของคีย์เวิร์ด ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงแคมเปญของคุณ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแคมเปญแรกของผู้แต่ง เนื่องจากช่วยให้คุณวัดประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ด แล้วทำการเปลี่ยนแปลงอย่างสอดคล้องได้
• การจับคู่วลี: การจับคู่วลีจะมีความเข้มงวดกว่าการจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้าง แต่โดยทั่วไปจะส่งผลให้โฆษณาของคุณอยู่ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องมากกว่า คำค้นหาในการช้อปปิ้งต้องมีกลุ่มคำหรือมีการเรียงลำดับของคำที่ตรงกันอย่างแม่นยำ และต้องรวมพหูพจน์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น คีย์เวิร์ด “นวนิยายคลาสสิก” อาจจับคู่กับคำค้นหา เช่น “นวนิยายคลาสสิกศตวรรษที่ 19” หรือ “นวนิยายคลาสสิกโดยนักเขียนหญิง” คุณควรใช้การจับคู่วลีเมื่อคุณต้องการสร้างสมดุลระหว่างความเกี่ยวข้องกับการเข้าถึง หรือสำหรับคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกโดยดูจากวลีที่มีประสิทธิภาพสูงในแคมเปญก่อนหน้านี้
• การจับคู่แบบแม่นยำ: นี่เป็นประเภทการจับคู่ที่แม่นยำที่สุด แต่ยังเกี่ยวข้องกับคำค้นหามากที่สุดด้วย ดังนั้น โอกาสในการขายจึงสูงขึ้น คำค้นหาในการช้อปปิ้งจะต้องจับคู่แบบแม่นยำตรงกับคีย์เวิร์ดหรือลำดับคำเพื่อให้โฆษณาปรากฏ และจะต้องใกล้เคียงกับตัวแปรของคำที่ตรงกันแบบแม่นยำ อย่างเช่น พหูพจน์ ตัวอย่างเช่น คีย์เวิร์ด “นวนิยายคลาสสิก” อาจจับคู่กับคำค้นหา “นวนิยายคลาสสิก” คุณควรใช้การจับคู่แบบแม่นยำเมื่อคุณทราบคีย์เวิร์ดเฉพาะที่ทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด

การระบุเป้าหมายเชิงลบ: สิ่งเหล่านี้คือคีย์เวิร์ดหรือสินค้าที่คุณไม่ต้องการให้ผู้คนเชื่อมโยงกับโฆษณาของคุณ และอาจอ้างอิงจากข้อมูลเชิงลึกจากแคมเปญที่ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้และไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

การประมูล คือราคาที่คุณยินดีจ่ายเพื่อให้นักช้อปคลิกโฆษณาของคุณ เนื่องจากผู้โฆษณาหลายรายมักจะกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดหรือสินค้าเดียวกัน จำนวนเงินที่คุณประมูล รวมถึงความเกี่ยวข้องของโฆษณาของคุณกับคำค้นหาของนักช้อป จะเป็นตัวกำหนดว่าโฆษณาชิ้นใดจะถูกนำไปแสดง ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังโฆษณาหนังสือนิยายเกี่ยวกับสงคราม คุณอาจเลือก "นวนิยายสงคราม" เป็นคีย์เวิร์ดและกำหนดราคาประมูลของคุณที่ $0.75 ผู้แต่งท่านอื่นก็เลือกคีย์เวิร์ดว่า "นวนิยายสงคราม" เช่นกัน และกำหนดราคาประมูลไว้ที่ $0.60 เนื่องจากคีย์เวิร์ดของคุณเหมือนกัน และคุณประมูลราคาสูงกว่า โฆษณาของคุณจึงถูกนำไปแสดง

การจัดทำงบประมาณ

คุณมีสองตัวเลือกในการจัดทำงบประมาณ ได้แก่ งบประมาณรายวันหรืองบประมาณตลอดอายุการใช้งาน งบประมาณรายวันช่วยให้คุณกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับแคมเปญของคุณในแต่ละวัน ซึ่งมีการคำนวณโดยเฉลี่ยจากระยะเวลาหนึ่งเดือน ดังนั้น หากคุณจัดงบประมาณไว้ $10 ต่อวันเป็นเวลา 30 วัน นั่นเท่ากับ $300 และการใช้จ่ายจะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปในแต่ละวัน ด้วยงบประมาณตลอดอายุการใช้งาน คุณจะกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับแคมเปญการโฆษณาทั้งหมด (ต้องเป็นอย่างน้อย $100) เมื่อถึงจำนวนนั้น โฆษณาจะหยุดทำงาน งบประมาณตลอดอายุการใช้งานจะมีการใช้ไปโดยเร็วที่สุด และไม่ได้มีการจัดสรรให้ใช้ได้ตลอดวัน ระบบนี้ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากระยะเวลาที่มีจำนวนการเข้าชมสูง อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่น้อยอาจหมดลงภายในเวลาไม่กี่นาที

เปิดตัวแคมเปญของ Sponsored Brands ของคุณ

การเปิดตัวแคมเปญของ Sponsored Brands ครั้งแรกของคุณเป็นเรื่องง่าย ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มต้นใช้งาน:

1. ลงชื่อเข้าใช้คอนโซลการโฆษณา
2. เลือกชื่อให้กับแคมเปญของคุณ ควรเป็นชื่อที่คุณระบุได้ง่าย ๆ (ไม่มีใครเห็น) และสามารถรวมถึงรายละเอียดของหนังสือที่คุณกำลังโฆษณาและกลยุทธ์การระบุเป้าหมายของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังสร้างแคมเปญในไตรมาสที่ 3 สำหรับนวนิยายระทึกขวัญ คุณสามารถตั้งชื่อแคมเปญว่า "Fall2024_keyword_thrillers"
3. กำหนดวันที่ที่คุณจะโฆษณาและงบประมาณของคุณ เลือกวันที่เปิดตัวให้กับโฆษณาของคุณและกำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการใช้จ่าย สำหรับผู้แต่งหลายคน การเริ่มต้นที่ดีคือ $10 ต่อวัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากไม่กำหนดวันที่สิ้นสุด เพื่อให้คุณสามารถดูและเรียนรู้ได้
4. เลือกรูปแบบโฆษณาที่คุณต้องการ ตัดสินใจระหว่างคอลเล็กชันสินค้าและโฆษณาวิดีโอ คอลเล็กชันสินค้าช่วยโปรโมตหนังสือหลายเล่มโดยใช้รูปภาพที่กำหนดเองขนาดใหญ่ คอลเล็กชันวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวของหนังสือคุณโดยใช้ชิ้นงานโฆษณาวิดีโอ
5. เลือกหนังสือที่คุณต้องการจัดแสดงบนหน้าแรกของคุณ หากคุณเลือกหน้าผู้แต่งเป็นหน้าแรก (หมายเหตุ: ปัจจุบันมีตัวเลือกนี้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) คุณสามารถเลือกหนังสือสามเล่มที่คุณต้องการให้ปรากฏในโฆษณาของคุณได้จากส่วน "ชิ้นงานโฆษณา" ที่ด้านล่างของหน้าแคมเปญ หากคุณเลือก "หน้าแรกใหม่" คุณสามารถเลือกหนังสือที่ต้องการโฆษณาจากรายการชื่อเรื่องที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในแค็ตตาล็อกของคุณได้ การเลือกชื่อเรื่องที่มีคะแนนรีวิวจากลูกค้าสูงที่สุดอาจทำให้โฆษณามีความน่าดึงดูดใจต่อนักช้อปมากยิ่งขึ้น
6. ลองคิดดูว่าคุณต้องการระบุเป้าหมายนักช้อปอย่างไร หากคุณเคยเรียกใช้แคมเปญ Amazon Ads มาก่อนแล้ว คุณจะมีข้อมูลเชิงลึกแล้วว่าคีย์เวิร์ดหรือสินค้าใดมีประสิทธิภาพดี รวมสิ่งเหล่านั้นไว้ในการระบุเป้าหมายของคุณ หากนี่เป็นแคมเปญโฆษณาครั้งแรกของคุณ ให้ใช้คำแนะนำของ Amazon สำหรับคีย์เวิร์ดและสินค้าที่จะกำหนดเป้าหมาย หรือเลือกคำด้วยตนเองและใช้สิ่งที่คุณเรียนรู้มาเป็นข้อมูลสำหรับโฆษณาในอนาคต หากเป็นแคมเปญแรกของคุณ ลองใช้ประเภทการจับคู่ทั้งหมดเพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดและสินค้าใดมีประสิทธิภาพดี
7. กำหนดการประมูลของคุณ ลองใช้ราคาประมูลที่แนะนำเมื่อคุณเปิดตัวโฆษณาของคุณ และปรับใช้ตามระยะเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร
8. สร้างโฆษณาของคุณ โฆษณาทั้งหมดต้องมีรูปโปรไฟล์ผู้แต่งหรือโลโก้ผู้เผยแพร่ และรูปภาพจะต้องมีขนาดอย่างน้อย 400x400 พิกเซลและไม่เกิน 1MB (ดูตัวอย่างที่นี่) คุณจะต้องสร้างหัวเรื่องเพื่อดึงดูดผู้อ่านด้วย หัวเรื่องช่วยทำให้ดูเรียบง่าย เช่น "ค้นพบสูตรอาหารมังสวิรัติที่ทำได้ง่าย ๆ จาก (นามปากกา)" หรือ "ภาพยนตร์ระทึกขวัญสั่นประสาทเรื่องล่าสุดในซีรีส์ XYZ" จากนั้น เพิ่มรูปภาพที่กำหนดเองและวิดีโอที่กำหนดเอง หรือชิ้นงานโฆษณาเพื่อแสดงถึงหนังสือหรือแบรนด์ของคุณ
9. ตรวจสอบรายงานเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของคุณ แคมเปญแรกของคุณเป็นโอกาสในการปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณ ตรวจสอบรายงานคีย์เวิร์ดและรายงานข้อความค้นหาของคุณเพื่อดูว่าอะไรมีประสิทธิภาพดี จากนั้น ปรับการระบุเป้าหมายและการประมูลของคุณให้เหมาะสม การทดลองถือเป็นกุญแจสำคัญในการปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานสำหรับการโฆษณาหนังสือ