คู่มือ

การตลาดมิลเลนเนียล

เคล็ดลับ แนวโน้ม กลยุทธ์

การตลาดมิลเลนเนียลเป็นกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์สามารถใช้สร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี ความสนใจในค่านิยมของแบรนด์ และความชอบประสบการณ์มากกว่าตัวสินค้า

เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อแสดงสินค้าของคุณและสร้างแคมเปญ

หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ

สร้างโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก เพื่อช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าของคุณบน Amazon

สำรวจแนวโน้มระดับโลกที่กำลังหล่อหลอมวัฒนธรรมของเรา

การตลาดมิลเลนเนียลคืออะไร

การตลาดมิลเลนเนียลเป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งไปยังผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 1981 ถึง 1996 i หรือที่รู้จักกันในชื่อ Gen Y) โดยพิจารณาจากคุณลักษณะ ค่านิยม ความชอบ และพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา

คนรุ่นนี้มักโดดเด่นด้วยความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี ความโน้มเอียงด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนความปรารถนาที่จะได้รับประสบการณ์ที่แท้จริงและมีความหมาย

ทำไมการตลาดมิลเลนเนียลจึงสำคัญ

การตลาดมิลเลนเนียลมีความสำคัญเนื่องจากคนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นตัวแทนของตลาดผู้บริโภคทั่วโลกเป็นส่วนใหญ่และมีอำนาจในการใช้จ่ายสูง ในปี 2023 คนรุ่นมิลเลนเนียลแซงหน้าคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ii และกลายเป็นกลุ่มคนรุ่นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 72.7 ล้านคน

ทำไมการตลาดในคนรุ่นมิลเลนเนียลจึงเป็นเรื่องยาก

คนรุ่นมิลเลนเนียลต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ เช่น Gen X (เกิดระหว่างปี 1966 ถึง 1981) และรุ่นเบบี้บูมเมอร์ (เกิดระหว่างปี 1946 ถึง 1965) โดยคนรุ่นนี้เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและเชี่ยวชาญในการเดินทางบนโลกดิจิทัล การตลาดในคนรุ่นมิลเลนเนียลอาจเป็นเรื่องยากเพราะพวกเขาอาจสงสัยในการโฆษณาดิจิทัลมากกว่า และสามารถมองเห็นเนื้อหาที่ไม่จริงหรือโฆษณาเกินจริงได้โดยง่าย พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับค่านิยมต่าง ๆ เช่น ความยั่งยืน ความรับผิดชอบต่อสังคม และความจริงแท้ ดังที่เห็นในรายงานผลกระทบที่สูงขึ้นประจำปี 2023 พวกเขามีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่สอดคล้องกับความเชื่อของตนและมีความโปร่งใสในแนวทางปฏิบัติ

นอกจากนี้ เช่นเดียวกับผู้บริโภคจำนวนมากในปัจจุบัน ด้วยการเปิดรับข้อมูลอย่างต่อเนื่อง คนรุ่นมิลเลนเนียลจึงมีช่วงความสนใจที่สั้นลง ซึ่งหมายความว่านักการตลาดจำเป็นต้องสร้างเนื้อหาที่มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างรวดเร็ว และทำให้การตลาดแบบเลือกความสนใจมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

คนรุ่นมิลเลนเนียลใช้ช่องทางการตลาดใดบ้าง

การตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์

การตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาดที่ใช้ครีเอเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดีย เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการให้กับผู้ติดตามของพวกเขา โดยทั่วไปแล้ว อินฟลูเอนเซอร์คือบุคคลที่มีผู้ติดตามซึ่งมีส่วนร่วมเป็นจำนวนมาก พวกเขามีทักษะโดยเฉพาะในการสร้างเนื้อหา เช่น บล็อกโพสต์ เนื้อหาวิดีโอ สตรีมสด และอื่น ๆ ซึ่งโดนใจกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่พวกเขาสร้างและรักษาไว้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเชื่อมต่อที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในขณะที่พวกเขาพูดคุยและแนะนำสินค้า ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคนรุ่นมิลเลนเนียลที่อาจเข้าร่วมในชุมชนออนไลน์ ในจากโฆษณาสู่จิตวิญญาณแห่งยุค 70% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ตอบแบบสำรวจรายงานว่า พวกเขาต้องการสัมผัสถึงความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งมากขึ้น

การตลาดผ่านวิดีโอได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับคนรุ่นมิลเลนเนียล คนยุคนี้พึ่งพาเนื้อหาภาพเป็นอย่างมาก และชอบบริโภคข้อมูลในรูปแบบที่รวดเร็วและเข้าใจง่าย โดยเฉพาะบนแอปโซเชียลมีเดียและสมาร์ทโฟน การผสมผสานการเล่าเรื่องที่จริงแท้จากครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์อาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความผูกพันกับนักช้อปในทุกขั้นตอนของกรวยการตลาด

การตลาดเชิงประสบการณ์เป็นการตลาดประเภทหนึ่งที่เชื่อมต่อแบรนด์กับลูกค้าผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ เช่น ร้านค้าป๊อปอัปหรืออีเว้นต์พิเศษ ประสบการณ์เหล่านี้มักจัดขึ้นแบบเปิดให้เข้าร่วมในสถานที่หรือแบบออนไลน์ และอาจรวมองค์ประกอบในรูปแบบดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับแบรนด์ในการสร้างช่วงเวลาที่โดดเด่นและน่าจดจำ ในการสำรวจโดย Eventbrite พบว่า 78% ของผู้ตอบแบบสำรวจซึ่งเป็นคนรุ่นมิลเลนเนียลกล่าวว่า พวกเขาชอบจ่ายเงินเพื่อประสบการณ์มากกว่าตัวสินค้า iii ทำให้การตลาดเชิงประสบการณ์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นมิลเลนเนียล

การตลาดผ่านเสียงช่วยแบรนด์ต่าง ๆ ขยายการส่งข้อความของแคมเปญออกไปนอกจอ โดยครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลาย รวมถึงเพลงโฆษณา ดนตรีประกอบโฆษณา และเนื้อหาของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น เนื่องจากการเป็นเจ้าของลำโพงอัจฉริยะเพิ่มขึ้น 77% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Audio ads จึงสามารถมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพในรูปแบบใหม่ ๆ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถใช้การตลาดผ่านเสียงเพื่อพบปะผู้ฟังที่กำลังรับฟังเนื้อหาในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวัน ไม่ว่าพวกเขาจะกำลังฟังโฆษณาผ่านเพลย์ลิสต์เพลงโปรดที่ยิม พอดแคสต์ตอนต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง หรือหนังสือเสียงขณะเตรียมอาหารเย็นที่บ้าน

การตลาดแบบโต้ตอบเป็นกระบวนการที่แบรนด์ใช้วิดีโอ ความคิดเห็น รูปภาพ อินโฟกราฟิก เกม บล็อก อีเมล โซเชียลมีเดีย เสียง และรูปแบบอื่น ๆ ในการแลกเปลี่ยนการสื่อสารแบบสองทางกับผู้บริโภค หากครั้งหนึ่งการตลาดแบบดั้งเดิมเคยเป็นการสื่อสารทางเดียวระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค การตลาดแบบโต้ตอบก็เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังกล่าวให้เป็นการแลกเปลี่ยนแบบสองทางที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองฝ่าย แทนที่จะให้กลุ่มเป้าหมายดูแค่เพียงข้อความจากแบรนด์ แต่การตลาดแบบโต้ตอบเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา เพื่อให้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ในเชิงรุกผ่านประสบการณ์แบบร่วมมือกัน

โฆษณาแบบดิสเพลย์ คือโฆษณาออนไลน์ที่รวมเนื้อหาและองค์ประกอบรูปภาพ พร้อมข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการที่เชื่อมโยงไปยังหน้าแรก โฆษณาแบบดิสเพลย์มักแสดงอยู่ด้านบนหรือด้านข้างของเว็บไซต์ หรือบางครั้งก็อยู่ตรงกลางเนื้อหาที่คุณกำลังอ่าน โฆษณาแบบดิสเพลย์ดึงดูดสายตา คุ้มต้นทุน และเป็นวิธีที่วัดผลได้สำหรับแบรนด์ในการที่จะบรรลุเป้าหมายการตลาด เนื่องจากสามารถกำหนดเป้าหมายได้สูง ผู้โฆษณาจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มประชากรที่เฉพาะเจาะจงตามความสนใจและพฤติกรรมเพื่อเชื่อมต่อกับนักช้อปที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม พร้อมข้อความที่ดึงดูดความสนใจของนักช้อป

การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับโปรแกรมค้นหา

เนื่องจากคนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นคนยุคดิจิทัลที่ต้องพึ่งพาเครื่องมือค้นหาเพื่อการหาข้อมูลและการค้นพบสินค้าเป็นอย่างมาก การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับโปรแกรมค้นหา (SEO) จึงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับพวกเขา ด้วยการค้นคว้าว่าคีย์เวิร์ดใดที่คนรุ่นมิลเลนเนียลใช้ค้นหา แบรนด์ต่าง ๆ สามารถปรับเนื้อหาของตนให้เหมาะสม เพื่อให้ปรากฏที่ด้านบนของหน้าผลลัพธ์และได้รับความไว้วางใจจากนักช้อปเหล่านี้ โดยการผลิตเนื้อหาคุณภาพสูงและให้ข้อมูล เช่น บล็อกโพสต์ รีวิวสินค้า หรือคู่มือที่ให้ข้อมูลความรู้ การพัฒนาความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้ากับผู้บริโภคผ่านการค้นหาสามารถช่วยให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับคนรุ่นมิลเลนเนียลได้

การตลาดเนื้อหา

การตลาดเนื้อหาเป็นแนวทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ ที่มุ่งเน้นการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณค่า มีความเกี่ยวข้อง และสม่ำเสมอ เพื่อดึงดูดและรักษากลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ แทนที่จะโฆษณาแบบดั้งเดิม การตลาดเนื้อหามุ่งเป้าไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า ด้วยการให้ข้อมูลที่พวกเขาพบว่ามีประโยชน์หรือน่าสนใจ เนื่องจากคนรุ่นมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับความจริงแท้และการเล่าเรื่องเป็นอย่างสูง การตลาดเนื้อหาจึงทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถแสดงบุคลิกภาพและคุณค่าของตนได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การตลาดเพื่อสร้างแบรนด์จะโปรโมตสินค้าหรือบริการของแบรนด์ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับแบรนด์ในภาพรวม การตลาดเพื่อสร้างแบรนด์เกี่ยวข้องกับการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคและทำการตลาดคุณลักษณะของแบรนด์ การลงทุนในความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้บริโภคอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนผู้บริโภคจากผู้ซื้อเพียงครั้งเดียวมาเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์ตลอดชีวิต

เคล็ดลับการตลาดมิลเลนเนียล

ให้ความสำคัญกับความจริงแท้

คนรุ่นมิลเลนเนียลโตมาในยุคเริ่มแรกของบริการโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Friendster รวมถึงบล็อกยุคแรก ๆ เช่น Blogger หรือ WordPress ในเวลานี้ ผู้ใช้มีการเชื่อมต่อกับผู้ที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันโดยการเปิดเผยความอ่อนแอและยอมรับความไม่สมบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้และจริงใจ ด้วยการแบ่งปันความคิดเห็นและแสดงความเป็นตัวของตัวเอง คนรุ่นมิลเลนเนียลจึงสามารถสร้างชุมชนที่มีค่านิยมคล้ายกับตนเอง ซึ่งพวกเขามองหาจากแบรนด์ที่พวกเขาสนับสนุนด้วย

มีความโปร่งใส

เนื่องจากคนรุ่นมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับความถูกต้อง พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะไว้วางใจแบรนด์ที่เปิดกว้างและซื่อสัตย์เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก (DEI) ความยั่งยืน หรือความไว้วางใจในแบรนด์ แม้ว่าแบรนด์จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจหรือการผลิตสินค้าของบริษัทสามารถช่วยสร้างความไว้วางใจและความภักดีในหมู่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแบรนด์มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

สร้างความไว้วางใจ

คนรุ่นมิลเลนเนียลในปัจจุบันมักมองว่าความสัมพันธ์กับแบรนด์ต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ยังคงซื้อรองเท้าวิ่งคู่โปรดซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือการไว้วางใจแบรนด์สินค้าดูแลผิวสักแบรนด์ที่ออกสินค้าใหม่จากผู้ผลิตที่มีจริยธรรม แบรนด์สามารถรักษาความสัมพันธ์นี้ได้ โดยการรับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าและปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงตามความต้องการ เพื่อแสดงออกถึงความใส่ใจ การตอบรีวิวบนเว็บไซต์ การมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย หรือการตอบข้อร้องเรียนอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยส่งเสริมความภักดีต่อแบรนด์ได้ในระยะยาว

ตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดมิลเลนเนียล

กรณีศึกษา

เมื่อ PepsiCo ต้องการรวมอาหารที่อร่อยที่สุดสองอย่าง นั่นคือชีโตสกับมักกะโรนีและชีส ให้เป็นของว่างชิ้นเดียว เป้าหมายสูงสุดคือการมีส่วนร่วมกับคนรุ่นมิลเลนเนียลที่เป็นลูกค้าใหม่ของแบรนด์ ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ระบุว่า 70% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลชอบกินขนมมากกว่าอาหารหลัก Cheetos จึงทำงานร่วมกับ Amazon Ads เพื่อเชื่อมต่อกับคนหนุ่มสาวที่ยังโสดผ่านกลยุทธ์สร้างสรรค์ซึ่งใช้ภาพลักษณ์ Chester Cheetah ที่ทันสมัย พร้อมคำแนะนำสูตรอาหารเพื่อเพิ่มความตั้งใจในการซื้อ ความชื่นชอบแบรนด์ และการรับรู้โฆษณา

Cheetos

กรณีศึกษา

เมื่อแบรนด์ช็อกโกแลตดั้งเดิมต้องการเข้าถึงนักช้อปรายใหม่ KITKAT ได้ร่วมมือกับ Twitch เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์และความสัมพันธ์ภายในชุมชนเกม ด้วยการรวม “โหมดเอียง” ซึ่งเป็นคำที่มักใช้อธิบายสภาวะความหงุดหงิดทางอารมณ์ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมเมอร์ลงในโฆษณา KITKAT พบโอกาสในการรวมสโลแกนที่รู้จักกันดี (“คิดจะพัก คิดถึง KITKAT” ) เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอายุน้อยเหล่านี้

KitKat

กรณีศึกษา

ในการขับเคลื่อนการรับรู้และการพิจารณาในสหราชอาณาจักรและเยอรมนี แบรนด์ฟิตเนสใช้กลยุทธ์ที่เน้นวิดีโอเป็นอันดับแรกเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ใหญ่วัย Gen Z และคนรุ่นมิลเลนเนียล ซึ่งคิดเป็นไม่ถึง 18% ของนักช้อป Amazon ในปัจจุบันของ Reebok เนื่องจากข้อมูลเชิงลึกแสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาวิดีโอออนไลน์บ่อยที่สุด Reebok จึงตัดสินใจมุ่งเน้นที่การใช้โฆษณาวิดีโอเป็นสื่อหลักของแคมเปญ Twitch มีบทบาทสำคัญ โดยโฆษณาวิดีโอมีอัตราการเล่นวิดีโอจนจบถึง 95% และมีผลตอบแทนจากการจ่ายค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 11% และ 40% ในสหราชอาณาจักรและเยอรมนีตามลำดับ

Reebok

ข่าวสาร

เมื่อ TD Bank เห็นว่าบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่วัย Gen Z และคนรุ่นมิลเลนเนียล พวกเขาตระหนักว่ามีโอกาสที่จะแนะนำวัยรุ่นกลุ่มนี้ให้รู้จักกับโลกแห่งการลงทุนด้วยแอปที่ปรับปรุงใหม่ของพวกเขา นั่นคือ TD Easy Trade ในแคนาดา เพื่อช่วยให้ประสบการณ์ดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น TD Bank ทำงานร่วมกับ Amazon Ads เพื่อสร้างแคมเปญที่มีโฆษณา Twitch และโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี ซึ่งส่งผลให้การรับรู้ของแบรนด์และการรับรู้โฆษณาเพิ่มขึ้น

TD BANK

คำถามที่พบบ่อย

ใครคือคนรุ่นมิลเลนเนียล

คนรุ่นมิลเลนเนียลหรือที่รู้จักในชื่อ Gen Y เป็นกลุ่มคนที่เกิดระหว่างต้นทศวรรษ 1980 ถึงกลางทศวรรษ 1990 พวกเขาโตมาในช่วงที่อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลเติบโตขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่โซเชียลมีเดียรูปแบบแรก ๆ เติบโตขึ้น

ทำไมคนรุ่นมิลเลนเนียลจึงสำคัญ

คนรุ่นมิลเลนเนียลมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นตัวแทนของคนรุ่นแรกที่เติบโตมากับเทคโนโลยีและชำนาญการใช้อินเทอร์เน็ต พวกเขาคุ้นเคยกับการช้อปปิ้งออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และอุปกรณ์มือถือ ทำให้สามารถเข้าถึงแคมเปญการตลาดดิจิทัลได้สูง

พฤติกรรมผู้บริโภคของคนรุ่นมิลเลนเนียลคืออะไร

เมื่อเปรียบเทียบกับคนรุ่นก่อน ๆ คนรุ่นมิลเลนเนียลมีแนวโน้มที่จะมีจิตสำนึกต่อสังคม และสนับสนุนแบรนด์ที่สอดคล้องกับค่านิยมของตน ซึ่งหมายความว่าแบรนด์ต้องมีความจริงแท้และโปร่งใสในการส่งข้อความ แม้ว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลอาจจะภักดีต่อแบรนด์ดั้งเดิมน้อยกว่า แต่พวกเขามีแนวโน้มที่จะภักดีต่อแบรนด์ที่พวกเขามองว่ามีความจริงแท้และสอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ตามรายงานผลกระทบที่สูงขึ้นประจำปี 2023 สาเหตุที่สำคัญต่อคนรุ่นมิลเลนเนียล ได้แก่ การดูแลสุขภาพและการเข้าถึงบริการสุขภาพ (31% ของผู้ตอบแบบสอบถาม) สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (26% ของผู้ตอบแบบสอบถาม) และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ (24% ของผู้ตอบแบบสอบถาม)
คนรุ่นมิลเลนเนียลมักจะให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าการครอบครองวัตถุ ดังนั้นแบรนด์อาจต้องนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าจดจำเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา นอกจากผู้ใหญ่ Gen Z ที่เติบโตมาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนแล้ว คนรุ่นมิลเลนเนียลยังมีแนวโน้มมากกว่าคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์หรือ Gen X ที่จะใช้เวลาโดยเฉลี่ยมากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและราคาก่อนตัดสินใจซื้อ

หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ

i Pew Research, สหรัฐอเมริกา, 2019
ii Statista, สหรัฐอเมริกา, 2023
iii Eventbrite, สหรัฐอเมริกา, 2023