คู่มือ
ค่านิยมของแบรนด์คืออะไร
นี่คือวิธีที่ธุรกิจของคุณสามารถเป็นผู้นำอย่างมีจุดหมาย
ค่านิยมของแบรนด์คือความเชื่อหลักที่บริษัทใช้เพื่อการตัดสินใจและวัฒนธรรมขององค์กร และเป็นวิธีที่พวกเขาโต้ตอบกับลูกค้า ชุมชน และโลกโดยรวม
เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อแสดงสินค้าของคุณและสร้างแคมเปญ
หากคุณมีประสบการณ์จำกัด ให้ติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีกำหนดงบประมาณขั้นต่ำ
สำรวจแนวโน้มระดับโลกที่กำลังหล่อหลอมวัฒนธรรมของเรา
ทำความเข้าใจค่านิยมของผู้บริโภคและรู้ว่าสิ่งนี้มีผลกระทบต่อความชื่นชอบในแบรนด์อย่างไร
ค่านิยมของแบรนด์คืออะไร
ค่านิยมของแบรนด์คือความเชื่อหลักที่บริษัทใช้เพื่อการตัดสินใจและวัฒนธรรมขององค์กร และเป็นวิธีที่พวกเขาโต้ตอบกับลูกค้า ชุมชน และโลกโดยรวม ค่านิยมของแบรนด์เหล่านี้กำหนดตัวตนของบริษัท สิ่งที่พวกต่อสู้ และวิธีการสร้างความสัมพันธ์กับพนักงานและผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอก
ทำไมค่านิยมของแบรนด์จึงมีความสำคัญ
ค่านิยมของแบรนด์มีความสำคัญเนื่องจากค่านิยมเหล่านี้เป็นตัวสร้างมุมมองของบริษัทและเป็นแนวทางทุกอย่างตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงแคมเปญการตลาด ค่านิยมของแบรนด์ยังมีความสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งพนักงานและผู้บริโภค จากการศึกษาด้าน Higher Impact ของ Amazon Ads ปี 2023 ผู้บริโภคทั่วโลก 81% กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการจากแบรนด์ที่มีค่านิยมสอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขามากกว่า
คุณกำหนดค่านิยมหลักของแบรนด์อย่างไร
ค่านิยมของแบรนด์จะแตกต่างกันในแต่ละคน และในแต่ละอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ความเป็นผู้นำ ลูกค้าและพนักงานของบริษัทก็จะมีค่านิยมที่ไม่เหมือนกัน เป็นสิ่งสำคัญมากที่แบรนด์จะต้องสร้างค่านิยมหลักของตนตั้งแต่เนิ่น ๆ และใช้สิ่งเหล่านี้เป็นดั่งดาวเหนือนำทางในการตัดสินใจและการทำการตลาด
การกำหนดค่านิยมของแบรนด์ ควรคำนึงถึงความซื่อสัตย์ต่อความเชื่อของตนเอง เข้าใจมุมมองของลูกค้าและพนักงาน และดำเนินการติดต่อสื่อสารเพื่อทราบว่าธุรกิจของคุณมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนและโลกในวงกว้างอย่างไร จากการวิจัย จากโฆษณาสู่จิตวิญญาณแห่งยุค ปี 2024 ผู้บริโภคทั่วโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งกล่าวว่าแบรนด์สามารถช่วยเพิ่มความตระหนักในปัญหาและหัวข้อได้ต่าง ๆ ได้ การที่แบรนด์ทั้งใหญ่และเล็กมีการเข้าถึงและมีแพลตฟอร์มที่กว้างขวาง การกำหนดค่านิยมที่ชัดเจนและมีความเข้าใจถึงข้อความที่แบรนด์ของคุณส่งต่อถึงลูกค้าทั่วโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
คุณสื่อสารค่านิยมของแบรนด์อย่างไร
แบรนด์สามารถสื่อสารค่านิยมของตนผ่านวิธีการออกแบบและผลิตสินค้า เช่น พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การใช้ วัสดุที่ยั่งยืนมากขึ้นหรือ ออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงการเข้าถึงได้สะดวก ทุกสิ่งที่แบรนด์ทำ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการตลาด ไปจนถึงการจ้างงาน และการดำเนินงานใช้ค่านิยมกำหนดทิศทางได้ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พวกเขามีให้ แบรนด์ยังสามารถสื่อสารค่านิยมของตนผ่านการโฆษณาได้เสมอ
จากการวิจัย จากโฆษณาสู่จิตวิญญาณแห่งยุค 72% ของผู้บริโภคในการสำรวจกล่าวว่าการโฆษณาเป็นวิธีการสำคัญสำหรับแบรนด์ในการสื่อสารค่านิยม ไม่ว่าจะทำผ่าน วิดีโอ โซเชียลมีเดีย การตลาดอินฟลูอินเซอร์ อีเมล หรือ โฆษณาดิสเพลย์แบบดั้งเดิม แบรนด์ก็มีโอกาสแบ่งปันค่านิยมของตนผ่านการสื่อสารทั้งหมดกับลูกค้า
ประโยชน์ของค่านิยมของแบรนด์
สร้างความรู้สึกของชุมชนและการอยู่ร่วมกัน
แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างจริงใจและแสดงให้เห็นถึงค่านิยมของตนโดยใช้ความสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นด้วยการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรม แทนที่จะทำการตอบสนอง จากการวิจัยจากโฆษณาสู่จิตวิญญาณแห่งยุค ผู้บริโภค 66% กล่าวว่าพวกเขาต้องการรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างและชุมชน และผู้บริโภค 6 ใน 10 คนเห็นด้วยว่าแบรนด์สร้างชุมชนและทำให้ผู้คนมารวมตัวกัน แบรนด์มีโอกาสสร้างการเชื่อมต่อที่แท้จริงและช่วยสร้างวัฒนธรรมผ่านค่านิยมที่พวกเขาสื่อสารออกมา
การสร้างความไว้วางใจกับผู้บริโภค
เพราะผู้บริโภคต้องการสื่อสารตัวตนจากการจับจ่าย แบรนด์จึงควรใส่ใจกับสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเฝ้าระวังการใช้จ่ายของตนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น จากการศึกษาของ Higher Impac พบว่า 70% ของผู้บริโภคทั่วโลกเชื่อว่าพวกเขาสามารถใช้เงินในการโหวตและสนับสนุนแบรนด์ที่เป็นพลเมืองโลกที่ดีได้ ในขณะที่ผู้บริโภคดำเนินการเพื่อสนับสนุนแบรนด์ที่สอดคล้องกับค่านิยมของตนและสนับสนุนสิ่งที่สำคัญต่อพวกเขา พวกเขาก็ตระหนักว่าแบรนด์เหล่านี้ได้รับความไว้วางใจ
ตัวอย่างของค่านิยมของแบรนด์
บล็อก
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ที่เป็นผู้ใหญ่The Simsจึงได้เปิดตัวแคมเปญ “Not Creative” ซึ่งเป็นซีรีส์เนื้อหาสไตล์สารคดีที่ติดตาม Amanda สาวน้อยครีเอเตอร์ที่กำลังค้นหาไอเดียของเธอเอง จากการทำงานร่วมกับ Amazon Ads ซีรีส์สารคดีสามตอนนี้ได้เชิญให้เหล่าครีเอเตอร์และนักสร้างผู้มีความสามารถซึ่งค้นพบแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานผ่านเกมนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยนักออกแบบภายใน นักดนตรี และศิลปินกราฟิก มาสอน Amanda ผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว การทำกิจกรรมที่ลงมือเอง และการเล่นเกม The Sims แคมเปญนี้ใช้พื้นที่อย่าง Fire TV, Twitch, Alexa และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ The Simsเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีในแบบของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ยกระดับข้อความหลักของแบรนด์ในการปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเล่น และแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเมื่อแบรนด์และครีเอเตอร์ทำงานร่วมกัน ซีรีส์สารคดี 3 ตอนได้เชิญผู้สร้างและครีเอเตอร์ที่มีความสามารถซึ่งได้ความคิดสร้างสรรค์จากการเล่นเกมมาทำงานร่วมกับ Amazon Ads

บล็อก
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้สภาพภูมิอากาศกลับมาดีภายในปี 2030 Logitech จึงทำงานเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยคำนึงถึงความยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ให้ความโปร่งใสกับผู้บริโภคเกี่ยวกับความยั่งยืนผ่านการโฆษณาและการส่งข้อความ
ตอนนี้ สินค้า Logitech 1 ใน 3 ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากโครงการ Next Life Plastics (เพื่อผลิตสินค้าด้วยพลาสติกรีไซเคิล) Logitech ยังมุ่งเน้นการออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่ลดปริมาณคาร์บอน โดยใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีโปรแกรม Carbon Clarity ซึ่งพวกเขามุ่งมั่นที่จะติดฉลากคาร์บอนในสินค้าทั้งหมดของตนเพื่อแสดงความรับผิดชอบและมีความโปร่งใสที่ผู้บริโภคตรวจสอบได้
ในการสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว Logitech ใช้ ร้านค้าแบรนด์บน Amazon และแคมเปญ Amazon Ads โปรแกรม Climate Pledge Friendlyซึ่งเน้นสินค้าที่มีการรับรองด้านความยั่งยืนจากบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม โดยนำเสนอสินค้า Logitech ที่ตรงตามมาตรฐานความยั่งยืน สนับสนุนพันธกิจของ Amazon ที่มุ่งมั่นจะช่วยรักษาโลกธรรมชาติ และยกย่องสินค้าที่มีการปรับปรุงในด้านความยั่งยืนอย่างน้อยหนึ่งด้าน SCS Global Services ได้ยกย่องสินค้าของ Logitech โดยการมอบประกาศนียบัตรการรับรองคาร์บอนเป็นกลาง ซึ่งหมายความว่ามีการวัดการปล่อยคาร์บอนของสินค้าและพบว่ามีการปล่อยคาร์บอนลดลง โดยมีการชดเชยให้กับการปล่อยคาร์บอนที่เหลืออยู่

บล็อก
ในปี 2023 สภาโฆษณาและ Amazon Ads Brand Innovation Lab (BIL) ได้ออกแบบ แคมเปญการตลาดด้วยเสียง “Sound It Out: When You Can't Say It, Play It” ซึ่งตั้งเป้าหมายเพื่อช่วยคนในครอบครัวเริ่มพูดคุยกันด้วยพลังของดนตรี แคมเปญนี้ประกอบด้วยเครื่องมือดิจิทัลชนิดแรกที่สามารถเข้าถึงได้บน Amazon.com/SounditOut และเชิญพ่อแม่และผู้ดูแลให้พิมพ์ความรู้สึก เช่น “มีความสุข” “โกรธ” หรือ “เศร้า” เครื่องมือใหม่นี้จะใช้ประโยชน์จากไลบรารี่ Amazon Music ที่มีเพลงมากกว่า 100 ล้านเพลงเพื่อมาอยู่ในรายชื่อเพลงที่คัดสรรแล้วซึ่งช่วยสะท้อนถึงความรู้สึกที่ต้องการ พ่อแม่สามารถขอให้ Alexa แชร์เพลงให้กับลูกหลานวัยรุ่นของตนได้ BIL ใช้ประโยชน์จากการศึกษาถ้อยคำแสดงอารมณ์ของ Amazon Music ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจำแนกเพลงตามอารมณ์ ในการขับเคลื่อนเครื่องมือค้นหาที่ช่วยให้พ่อแม่และวัยรุ่นค้นหาเพลงได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์ความรู้สึกที่มีอยู่ลงไป จากนั้น BIL ได้ผสานสิ่งนี้เข้ากับเทคโนโลยีการแชร์เพลงของ Alexa ซึ่งช่วยให้พ่อแม่สามารถส่งเพลงเพื่อสื่อความรู้สึกกับลูกวัยรุ่นได้อย่างง่ายดายผ่านอุปกรณ์ใดก็ตามที่สามารถใช้ Alexa ได้
เพื่อโปรโมตประสบการณ์ดิจิทัลสองภาษา BIL จึงได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Muchas Flores ซึ่งเป็นภาพยนตร์ในเกี่ยวกับเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่กำกับโดยฝาแฝดตระกูล Novemba ที่ได้รับรางวัล สปอตโฆษณาสื่อให้ผู้ชมรู้สึกถึงความตึงเครียดและอึดอัดในการพยายามสื่อสารกันระหว่างแม่และลูกสาว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรู้ถึงความท้าทายที่พ่อแม่และผู้ดูแลไม่เพียงแต่จะเริ่มบทสนทนาเท่านั้น แต่ยังทำให้บทสนทนาดำเนินต่อไปด้วยผ่านการแสดงท่าทางเล็ก ๆ น้อย ๆ และภาษากาย ในภาพยนตร์ การแชร์เพลงอย่าง "A Letter to My Younger Self" ของ Ambar Lucid ทำให้พ่อแม่สามารถเชื่อมต่อกับลูก ๆ วัยรุ่นผ่านศิลปะแห่งดนตรีและเปิดช่องทางไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

บล็อก
ในช่วงเดือนคุ้มครองโลกปี 2023 General Mills ทำงานร่วมกับ Amazon Ads และ Fire TV เพื่อช่วยสนับสนุนกองทุนมูลนิธิอุทยานแห่งชาติ (NPF) ผ่านโครงการ Stream It Forward โครงการริเริ่มทางการตลาดเพื่อการกุศลของ Fire TV ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีแรงจูงใจที่จะสตรีมเนื้อหาวิดีโอเพื่อช่วยหาเงินบริจาคให้กับ NPF ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ปกป้องและพัฒนาอุทยานแห่งชาติกว่า 400 แห่งของอเมริกาเพื่อคนในรุ่นปัจจุบันและในอนาคต ในช่วงแคมเปญ “Press Play for Nature” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 26 เมษายน Amazon ได้บริจาคเงิน 1 ดอลลาร์สำหรับทุก ๆ ชั่วโมงของการสตรีมเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติที่คัดเลือกมาแล้วบน Fire TV
General Mills และ Fire TV ทำงานร่วมกับ Prime Video เพื่อเลือกเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติเก้าเรื่องที่จะให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมในช่วงเดือนคุ้มครองโลก เนื้อหาที่ผ่านการคัดเลือกรวมถึง Wildest Places สารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติในปี 2019 ซึ่งนำเสนอแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา และ The Pollinators สารคดีเกี่ยวกับคนเลี้ยงผึ้ง ตลอดแคมเปญ เนื้อหาเหล่านี้ได้รับการสตรีมเพิ่มขึ้น 30% และ Stream It Forward บรรลุเป้าหมายในการระดมทุน 100,000 ดอลลาร์ให้กับ NPF โดยมี General Mills บริจาคสมทบด้วยจำนวนเงินที่เท่ากับที่มีผู้บริจาค
