แนวทาง
ทำความเข้าใจ Amazon Ads
ไม่ว่าคุณอยากจะเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ เพิ่มการพิจารณาในการซื้อสินค้าหรือบริการ กระตุ้นการคอนเวอร์ชัน หรือเพิ่มความภักดี เราจะมอบเครื่องมือให้คุณสามารถค้นหาโซลูชันโฆษณาที่เหมาะสมเพื่อช่วยผลักดันผลลัพธ์ที่ตรวจวัดได้ให้กับคุณ
เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อโปรโมตสินค้าและสร้างแคมเปญ
สร้างโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก เพื่อช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าของคุณบน Amazon
สร้างแรงบันดาลใจให้นักช้อปที่มีแนวโน้มซื้อสูงที่อาจขยับจากขั้นตอนการพิจารณาซื้อมาเป็นการซื้อ
ทำไมฉันถึงควรใช้ Amazon Ads
พร้อมที่จะพบกลุ่มเป้าหมายในที่ที่พวกเขาช้อป อ่าน ฟัง และรับชมสื่อหรือยัง Amazon Ads สามารถช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับลูกค้าในสถานที่ที่พวกเขาชื่นชอบ Amazon Ads ถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการโฆษณาของคุณ ตั้งแต่การกระตุ้นการรับรู้ของแบรนด์ไปจนถึงการพิจารณาซื้อและการซื้อ Amazon Ads ยังถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง ไม่ว่าคุณจะมีความเชี่ยวชาญและมีงบประมาณแค่ไหน
| อันดับที่ 1 การจัดอันดับในผลสำรวจการรับรู้ของผู้โฆษณาที่นำเสนอความคุ้มค่าต่อการลงทุนและการเป็นผู้นำที่มีความเชื่อถือของอุตสาหกรรม1 | มากกว่า 275 ล้าน การเข้าถึงพื้นที่ที่รองรับโฆษณารายเดือนโดยเฉลี่ยในคลังโฆษณาที่ Amazon Ad เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวและเป็นผู้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา2 | 59% เปอร์เซ็นต์ของนักช้อปในการสำรวจกล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มมากขึ้นที่จะซื้อสินค้าจากโฆษณาที่เห็นบน Amazon3 |
| 35% เปอร์เซ็นต์ของผู้ซื้อในการสำรวจที่ ค้นพบแบรนด์ใหม่ ใน Amazon4 | 36% เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่เกิดจาก Amazon Ads สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกา5 | 47% ค่าเฉลี่ยของยอดขายที่ไม่ใช่ Amazonสำหรับแบรนด์ที่ใช้โฆษณาดิสเพลย์ของ Amazon เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 23% สำหรับแบรนด์ที่ใช้โฆษณา sponsored6 |
Amazon Ads มีอะไรให้บ้าง
Amazon Ads นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันสำหรับทุกวัตถุประสงค์ทางการตลาด หากคุณยังใหม่กับการโฆษณา เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยโฆษณา sponsored โฆษณา Sponsored ของ Amazon ช่วยให้ผู้โฆษณาทุกขนาดสามารถสร้างความสัมพันธ์ให้กับแบรนด์ เพิ่มยอดขาย และสร้างความโดดเด่นในสายตานักช้อปทั้งในและนอก Amazon โฆษณา sponsored สามารถไปปรากฏอยู่ในตำแหน่งโฆษณาที่มีการมองเห็นได้สูงบน Amazon เช่น ในหน้าผลการช้อปปิ้งหน้าแรกและในหน้าสินค้า รวมถึงที่อื่น ๆ ที่นักช้อปมักเข้ามาดู รวมถึงจุดหมายปลายทางของบุคคลที่สามและช่องทางที่เป็นเจ้าของและดำเนินการ ในฐานะผู้โฆษณา คุณสามารถเลือกจากเครื่องมือโฆษณา sponsored นอกจากนี้คุณยังสามารถผสมผสานและจับคู่ตัวเลือกโฆษณาต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงของคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการโฆษณาของคุณ สำรวจข้อเสนอโฆษณา sponsored ของเรา:
โฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิกในแบบบริการตนเองของรายการสินค้าแต่ละรายการเหล่านี้จะปรากฏในผลการช้อปปิ้งและหน้ารายละเอียดสินค้า
โฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิกในแบบบริการตนเองสำหรับแบรนด์เหล่านี้จะปรากฏในผลการช้อปปิ้งและมีหัวเรื่องที่กำหนดเอง โลโก้แบรนด์ และสินค้าหลายรายการ
โฆษณาดิสเพลย์แบบบริการตนเองเหล่านี้ใช้ชิ้นงานโฆษณาที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามสิ่งที่สนใจจะช้อปปิ้งบน Amazon ที่มีความเกี่ยวข้อง
Sponsored TV คือโซลูชันโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีแบบบริการตนเองที่ออกแบบมาสำหรับแบรนด์ทุกขนาด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและมีส่วนร่วมกับลูกค้าจำนวนมากขึ้นบนหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในบ้านโดยไม่มีความเสี่ยง
ปลายทางของแบรนด์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายและที่มีหลายหน้าบน Amazon เหล่านี้จะมีพอร์ตโฟลิโอสินค้าของคุณเพื่อช่วยบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์
ฉันควรใช้โฆษณาดิจิทัลหรือไม่
โลกดิจิตอลที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดช่องทางใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้ค้นพบ เรียกดู และเลือกซื้อสินค้าและแบรนด์ต่างๆ โฆษณาดิจิทัลอาจมีการผสมผสานระหว่างข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ และปรากฏได้ทุกที่ตั้งแต่เว็บไซต์ไปจนถึงโซเชียลมีเดียและเนื้อหาสตรีมมิ่ง โฆษณาดิจิทัลมีข้อดีหลายประการ:
- แนวทางใหม่ในการเข้าถึงนักช้อป
ลูกค้าเริ่มกระบวนการช้อปปิ้งทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลของ Statista มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักช้อปออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 278.33 ล้านคนในปี 2024 1 แนวโน้มนี้ทำให้เกิดโอกาสในการเข้าถึงนักช้อปที่มีศักยภาพด้วยช่องทางออนไลน์ - รูปแบบที่ยืดหยุ่น
ความต้องการของแต่ละคนแตกต่างกัน โซลูชันแบบดิจิทัลจึงถูกสร้างขึ้นโดยยึดหลักการนี้ โฆษณาดิจิทัลมีฟีเจอร์ที่ปรับแต่งได้มากมายให้เลือก รวมถึงรูปแบบชิ้นงานโฆษณาและตำแหน่งโฆษณาที่หลากหลาย - งบประมาณที่ปรับเปลี่ยนได้
โฆษณาดิจิทัลต่างจากตำแหน่งโฆษณาวิทยุ บิลบอร์ดกลางแจ้ง และการโฆษณาแบบดั้งเดิมอื่น ๆ ซึ่งมักต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่โฆษณาดิจิทัลสามารถทำได้ไม่ว่าคุณจะมีงบประมาณเท่าไหร่ - ดำเนินการได้รวดเร็ว
การโฆษณาดิจิทัลทำให้คุณสามารถดำเนินการและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้เร็วกว่าการโฆษณาแบบเดิม ๆ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงมีโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกที่ถูกเวลา - ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์
ผลิตภัณฑ์โฆษณาดิจิทัลจำนวนมากสามารถวัดผลและปรับให้เหมาะสมได้แบบเรียลไทม์ ติดตามผลลัพธ์ ดูว่าโฆษณาของคุณทำงานได้ดีหรือไม่ และปรับเปลี่ยนแคมเปญของคุณได้ในขณะที่แคมเปญดำเนินอยู่
ฉันจะตั้งเป้าหมายการโฆษณาของฉันได้อย่างไร
ในการเริ่มต้น ตั้งเป้าหมายการโฆษณาให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่คุณต้องการ สำรวจเป้าหมายทั่วไป วัตถุประสงค์โดยรวม และตัวชี้วัดสำคัญเพื่อความสำเร็จ
เชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณในเวลาที่เหมาะสมด้วยข้อความที่สำคัญ
เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าบนเว็บไซต์หรือร้านค้าของคุณให้สูงสุด
ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ผลักดันผลลัพธ์บน Amazon หรือปลายทางของบุคคลที่สาม
ทำให้ลูกค้ากลับมาอีกครั้งและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
Amazon Ads มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
Amazon Ads ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้กับงบประมาณการโฆษณาไม่ว่ามากหรือน้อย โฆษณา sponsored ไม่มีข้อกำหนดการใช้จ่ายขั้นต่ำ คุณจึงสามารถเริ่มต้นและทดสอบแคมเปญด้วยงบประมาณเท่าใดก็ได้ เริ่มต้นเพียง $10 โฆษณา sponsored เป็นแบบต้นทุนต่อคลิก หมายถึงจะมีการคิดค่าใช้จ่ายคุณก็ต่อเมื่อลูกค้าคลิกดูโฆษณาของคุณเท่านั้น เวลาสร้างแคมเปญโฆษณา sponsored คุณจะเป็นคนเลือกงบประมาณของคุณเองรวมถึงจำนวนเงินที่คุณต้องการประมูลต่อคลิก คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินมากกว่าจำนวนเงินที่คุณตั้งประมูลไว้ Sponsored Products และ Sponsored Displayจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดงบประมาณรายวันหรือจำนวนเงินมากสุดที่คุณต้องการจ่ายต่อวันได้ Sponsored Brands จะทำให้คุณสามารถเลือกกำหนดงบประมาณรายวันหรืองบประมาณระดับแคมเปญ ซึ่งก็คือจำนวนเงินสูงสุดที่คุณพร้อมจะจ่ายตลอดแคมเปญได้ หากคุณกำหนดงบประมาณรายวัน คุณสามารถเพิ่มหรือลดงบประมาณได้ตลอดเวลา โปรดทราบว่าในงบประมาณระดับแคมเปญ คุณจะสามารถทำการเพิ่มได้อย่างเดียว ดังนั้นหากคุณคิดว่ามีโอกาสที่คุณจะต้องการลดงบประมาณของคุณลงก่อนจะสิ้นสุดแคมเปญ ให้ลองเลือกใช้งบประมาณรายวันที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า
คำศัพท์ใดบ้างที่ฉันต้องรู้
เราได้รวบรวมคำศัพท์ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจโฆษณาดิจิทัล ศัพท์บางคำมีใช้ในวงการการโฆษณาดิจิทัลทั่วไป บางคำเป็นศัพท์ที่ใช้กับ Amazon Ads โดยเฉพาะ
การโฆษณาทั่วไป
- การระบุแหล่งที่มา: ก่อนที่ใครจะซื้อสินค้าหรือบริการ พวกเขาอาจเห็นโฆษณามากมาย ทั้งโฆษณาวิทยุ บิลบอร์ด ป๊อปอัปออนไลน์ การระบุแหล่งที่มาจะบอกถึงโฆษณาที่เป็นข้อมูลประกอบการซื้อครั้งนั้น ๆ บริการที่แตกต่างกันมีรูปแบบการระบุที่มาแตกต่างกัน โดยคำนึงถึงปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่น ลูกค้ามีปฏิกิริยาอย่างไรต่อโฆษณา และปฏิกิริยานั้นเกิดขึ้นตอนไหนเมื่อเทียบกับการซื้อ
- เส้นทางการซื้อของผู้บริโภค/เส้นทางการตัดสินใจของผู้บริโภค: คำนี้หมายถึง ประสบการณ์ทั้งหมดที่นักช้อปต้องเจอเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทและแบรนด์ของคุณ แทนที่จะพิจารณาแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของธุรกรรมหรือประสบการณ์ เส้นทางของลูกค้าเป็นการบันทึกประสบการณ์ทั้งหมด คุณสามารถตั้งวัตถุประสงค์การโฆษณาของคุณสำหรับระยะต่าง ๆ ของเส้นทาง โดยทั่วไปแล้วคือ ระยะการรับรู้ ระยะการพิจารณาซื้อ ระยะการซื้อหรือการคอนเวอร์ชัน และความภักดี
- แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์หรือ DSP: ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการซื้อและการจัดการคลังโฆษณาดิจิทัลจากผู้เผยแพร่หลายแห่งตามโปรแกรม โซลูชันของ Amazon Ads ก็คือ Amazon DSP Amazon DSP มีทั้งตัวเลือกแบบบริการตนเองและแบบมีการจัดการให้
- แพลตฟอร์มด้านอุปทาน (SSP): แพลตฟอร์มด้านอุปทาน หรือที่เรียกว่าแพลตฟอร์มฝั่งขาย หรือ SSP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขายพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์และแอปตามจำนวนการแสดงผลของโฆษณา และเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศเทคโนโลยีการโฆษณา ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ พื้นที่ซื้อขายของตัวแทน เซิร์ฟเวอร์โฆษณา และเครือข่ายโฆษณา
- คีย์เวิร์ด: คำหรือกลุ่มคำเหล่านี้ใช้ในการระบุเป้าหมายโฆษณาของคุณไปยังคำค้นหาในการช้อปปิ้งที่เกี่ยวข้อง คุณอาจเลือกคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการระบุเป้าหมายโดยใช้การกำหนดเป้าหมายเองหรือให้ Amazon Ads เลือกคีย์เวิร์ดโดยใช้การระบุเป้าหมายอัตโนมัติ
- ตำแหน่งโฆษณา: ตำแหน่งที่โฆษณาปรากฏ ตัวอย่างเช่น ในคำค้นหาการช้อปปิ้งบน Amazon บนอุปกรณ์ Amazon (เช่น Fire TV หรือ Fire tablet) และในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
- แบบตั้งโปรแกรม: คำศัพท์ที่ใช้ในวงการโฆษณาดิจิทัลซึ่งหมายถึงการซื้อและขายสินค้าในพื้นที่โฆษณาดิจิทัลแบบอัตโนมัติ
- การระบุเป้าหมาย: บริการโฆษณาดิจิตอลใช้วิธีต่างๆ ในการจับคู่โฆษณาเข้ากับลูกค้าที่มีศักยภาพตามความสนใจ ตัวอย่างเช่น คำค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งหรือการซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้อง
ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
- งบประมาณ: จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะใช้จ่ายในแคมเปญการโฆษณาของคุณ
- ประมูล: จำนวนเงินที่คุณยินดีจะจ่ายเพื่อให้นักช้อปคลิกที่โฆษณาของคุณ Amazon Ads ทำให้คุณสามารถใช้การประมูลอัตโนมัติ (การประมูลของคุณจะได้รับการปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้) หรือคุณสามารถเลือกการประมูลด้วยตนเองและตั้งค่าราคาประมูลของคุณเองก็ได้
- ต้นทุนต่อคลิก (CPC): ต้นทุนเฉลี่ยที่คุณจ่ายในแต่ละครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาของคุณ จำนวนนี้คำนวณได้จากการหารจำนวนเงินที่คุณใช้ในการโฆษณาหารด้วยจำนวนคลิกที่ได้ Sponsored Products และ Sponsored Brands คือตัวอย่างของโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก ดังนั้นคุณจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อโฆษณาของคุณได้รับการคลิกเท่านั้น
- ต้นทุนต่อจำนวนการแสดงผลของโฆษณา 1,000 ครั้ง [ในทางเทคนิคก็คือ "ต้นทุนต่อพันครั้ง“] (CPM): ต้นทุนเฉลี่ยที่คุณจ่ายในจำนวนการแสดงผลของโฆษณา 1,000 ครั้ง
ผลลัพธ์ของแคมเปญการโฆษณา
- ค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS): ตัววัดที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพแคมเปญ Sponsored Products และ Sponsored Brands ACOS หมายถึงอัตราส่วนการใช้จ่ายในการโฆษณาต่อยอดขายสินค้าที่โฆษณา (Sponsored Products) หรือยอดขายรวมของแบรนด์ (Sponsored Brands) ซึ่งจะคำนวณโดยเอาการใช้จ่ายโฆษณาหารด้วยยอดขายที่เกิดจากการโฆษณา
- การยกระดับแบรนด์: การวัดผลกระทบโดยตรงที่โฆษณาของคุณมีต่อการรับรู้และพฤติกรรมของนักช้อปที่มีต่อแบรนด์ เมทริกซ์นี้จะได้รับการคำนวณในหลายวิธีโดยใช้เมทริกซ์ชี้วัดความสำเร็จหลังจากเห็นโฆษณา เช่น การรับรู้แบรนด์และเมทริกซ์ชี้วัดความเป็นไปได้ที่จะซื้อ
- อัตราการคลิกผ่าน (CTR): เปอร์เซ็นต์ของการแสดงโฆษณาที่มีการคลิกเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนการแสดงผลทั้งหมด การคำนวณมาตรฐานสำหรับ CTR คือ (ยอดคลิก/จำนวนการแสดงผลของโฆษณา) x 100
- การคอนเวอร์ชัน: การดำเนินการที่ลูกค้าทำเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งกลุ่มคำนี้สามารถใช้อ้างอิงการดำเนินการจำนวนต่าง ๆ รวมถึงการคลิก “เพิ่มไปที่รถเข็น” การทำการซื้อเสร็จสิ้น และอื่น ๆ
- เมทริกซ์ลูกค้าใหม่ของแบรนด์: เมทริกซ์ลูกค้าหน้าใหม่ของแบรนด์ช่วยอธิบายเรื่องลูกค้าสั่งซื้อแบรนด์/สินค้าของคุณเป็นครั้งแรกบน Amazon ในช่วงปีที่ผ่านมา เมทริกซ์เหล่านี้ทำให้ผู้โฆษณามีเครื่องมือในการประมาณการค่าใช้จ่ายในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าหน้าใหม่บน Amazon และชี้ช่องทางและกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแคมเปญ
- จำนวนการแสดงของโฆษณา: จำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาบนหน้าเว็บหรืออุปกรณ์
- การเข้าถึง: ยอดรวมผู้ใช้ที่เห็นโฆษณาเดียวกันปรากฏบนหน้าเว็บหรือหน้าจอต่าง ๆ
- ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS): การวัดจำนวนเงินที่คุณได้รับจากเงินที่ใช้ไปในการโฆษณา การคำนวณมาตรฐานสำหรับ ROAS คือ (ยอดขายโฆษณารวม) / (ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้ในการโฆษณา)
- ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI): การวัดว่าคุณได้กำไรสุทธิเท่าไหร่จากเงินทุกดอลลาร์ที่คุณใช้ไป การคำนวณมาตรฐานสำหรับ ROI คือ
(รายได้ - ค่าใช้จ่าย) / (ค่าใช้จ่าย)
ฉันจะเริ่มต้นได้อย่างไร
การสร้างและเปิดตัวแคมเปญการโฆษณาครั้งแรกของคุณเป็นเรื่องง่าย ในการสร้างแคมเปญแรก ให้ ลงทะเบียนเป็นผู้โฆษณา จากนั้นให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าแคมเปญของคุณ หากคุณมีบัญชีผู้โฆษณาอยู่แล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณแล้วคลิกที่ "โฆษณา sponsored” จากนั้นเลือก “โปรแกรมจัดการแคมเปญ” จากเมนูด้านซ้ายของคุณ จากนั้นคุณจะได้รับแจ้งให้ตั้งชื่อแคมเปญของคุณ เลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการโฆษณา ตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการ งบประมาณแคมเปญ และระยะเวลา หลังจากเปิดแคมเปญแล้ว คุณจะพบข้อมูลเชิงลึกและรายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโฆษณาภายใน “โปรแกรมจัดการแคมเปญ” ในคอนโซลการโฆษณาของคุณ ใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นเพื่อปรับแต่งแคมเปญของคุณแล้วแต่ว่าแบบไหนเหมาะสมที่สุด
หากคุณสนใจที่จะใช้ Amazon Ads เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการที่คุณไม่ได้จำหน่ายบน Amazon เราขอนำเสนอโฆษณาดิสเพลย์ โฆษณาวิดีโอ และ Audio ads
เป็นผู้โฆษณาที่ลงทะเบียนแล้วใช่หรือไม่ ลงชื่อเข้าใช้
1 รายงานการติดตามแบรนด์, การรับรู้ของผู้โฆษณา, ไตรมาสที่ 3 ปี 2022
2 ข้อมูลภายในของ Amazon, ธันวาคม 2023 และ มีนาคม 2024, สหรัฐอเมริกา เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรายเดือนที่ไม่ซ้ำกันทั่วทั้ง Amazon Store, Prime Video, Twitch, Freevee, Fire TV Channels, Thursday Night Football, IMDb, Amazon Music, Wondery, Alexa, แท็บเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Fresh, Amazon Go, Whole Foods ปรับใช้ตัวคูณสำหรับบุคคลต่อครัวเรือนกับพื้นที่โฆษณาทั้งหมด
3-4 แบบสำรวจผู้บริโภคของ Kantar, กรกฎาคม 2022, สหรัฐอเมริกา
5 ข้อมูลภายใน Amazon, ไตรมาสที่ 2 ปี 2022, สหรัฐอเมริกา
6 การวิเคราะห์การเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นของบุคคลที่สามของ Amazon Ads, ม.ค. - ธ.ค. 2023