3 ขั้นตอนที่จะช่วยเริ่มต้นหรือปรับปรุงกลยุทธ์คีย์เวิร์ดของคุณ

ในการเริ่มต้นกลยุทธ์คีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญโฆษณา sponsored ของ Amazon ขั้นตอนแรกคือการค้นหากลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับรายการคีย์เวิร์ดของคุณ ลองใช้กลยุทธ์เหล่านี้ทั้งสี่กลยุทธ์:

• ใช้ประโยชน์จากแคมเปญอัตโนมัติของ Sponsored Products ของคุณ ใช้รายงานข้อความค้นหาของคุณเพื่อเรียนรู้ว่าคีย์เวิร์ดใดทำงานได้ดีที่สุดในแคมเปญอัตโนมัติของคุณ
• มีความเฉพาะเจาะจง ใช้การผสมผสานคีย์เวิร์ดที่นิยามคุณลักษณะ วัสดุ หรือประโยชน์ของสินค้าของคุณอย่างชัดเจน
• ใช้ชื่อแบรนด์ของคุณ ใส่ชื่อแบรนด์ของคุณเพื่อช่วยเพิ่มจำนวนการเห็นโฆษณาในการค้นหาแบรนด์ หรือแม้แต่แนะนำแค็ตตาล็อกของคุณให้มากขึ้นแก่นักช้อปที่เลือกดูสินค้าจากแบรนด์ของคุณตามชื่อ
• ใช้วิธีออร์แกนิค ใช้คีย์เวิร์ดที่คุณเพิ่มลงในหน้ารายละเอียดสินค้าเนื่องจากจะมีความเกี่ยวข้อง

ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ คุณสามารถเริ่มเพิ่มคีย์เวิร์ดลงในแคมเปญของคุณได้

คีย์เวิร์ดที่คุณรวมอยู่ในการระบุเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดด้วยตนเองมีความเฉพาะเจาะจงเพียงใด หากคุณกำลังเปิดตัวสินค้าใหม่และต้องการช่วยกระตุ้นการรับรู้ คุณอาจต้องเน้นคีย์เวิร์ดกว้าง ๆ ทั่วไป แต่หากคุณต้องการแนะนำสินค้าให้กับนักช้อปที่มีความคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว คุณอาจต้องเน้นคีย์เวิร์ดที่มีแบรนด์ ซึ่งรวมถึงชื่อแบรนด์ของคุณเองด้วย ต่อไปนี้คือคีย์เวิร์ดบางประเภทที่ควรพิจารณาสำหรับแคมเปญของคุณ:

• คีย์เวิร์ดทั่วไป: คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงน้อยกว่าที่มักจะสั้นกว่าหรือเป็นตัวอย่างของหมวดหมู่ที่กว้างกว่า (เช่น เก้าอี้หรือเก้าอี้ทานอาหาร)
• คีย์เวิร์ดแบบมีคำขยาย: คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า (โดยปกติแล้วมีอย่างน้อยสองสามคำ) ที่โดยทั่วไปมีปริมาณการค้นหาที่ต่ำกว่าแต่มีความเกี่ยวข้องสูงกว่า (เช่น เก้าอี้ไม้ทานอาหารสีขาว)
• คีย์เวิร์ดที่มีแบรนด์: คีย์เวิร์ดที่มีชื่อแบรนด์ของคุณ (เช่น ชุดเก้าอี้ทานอาหาร Modernata)
• คีย์เวิร์ดตามฤดูกาล: คีย์เวิร์ดที่รวมคำตามฤดูกาลสำหรับช่วงเวลาเฉพาะหรือช่วงเวลาที่มีการสั่งซื้อมากระหว่างปี (เช่น ของตกแต่งโต๊ะวันวาเลนไทน์)

การจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดตามวัตถุประสงค์ในการโฆษณาถือเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ด การประมูล การวัด และงบประมาณได้ดีขึ้น

ไม่ใช่ความเฉพาะเจาะจงของคีย์เวิร์ดเท่านั้นที่มีความสำคัญ แต่ประเภทการจับคู่ของคีย์เวิร์ดก็มีความสำคัญเช่นกัน ประเภทการจับคู่จะกำหนดว่าคีย์เวิร์ดที่คุณประมูลจับคู่กับข้อความค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งของลูกค้าแบบใกล้เคียงมากน้อยเพียงใด คุณมีสามตัวเลือกต่อไปนี้

• การจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้าง: การจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้างที่มีความจำกัดน้อยที่สุดเหล่านี้ให้การออกแสดงทราฟฟิกสูงสุด การจับคู่แบบนี้เหมาะที่สุดกับการกระตุ้นการรับรู้ และรับข้อมูลเชิงลึกว่านักช้อปค้นพบสินค้าของคุณอย่างไร ด้วยการจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้าง โฆษณาของคุณสามารถแสดงเมื่อนักช้อปเลือกดูสินค้าโดยใช้คำใด ๆ ในลำดับใดก็ได้ การจับคู่แบบนี้อาจเหมาะกับคีย์เวิร์ดทั่วไปของคุณ และคุณอาจต้องประมูลคีย์เวิร์ดเหล่านี้ในราคาประมูลสูงกว่าแบบอื่น
• การจับคู่วลี: คีย์เวิร์ดที่มีการจับคู่วลีมีความจำกัดมากขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับกลยุทธ์คีย์เวิร์ดแบบมีคำขยายของคุณ และเป็นคีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เหมาะสำหรับช่วยกระตุ้นการพิจารณาและคอนเวอร์ชัน
• การจับคู่แบบแม่นยำ: คีย์เวิร์ดจับคู่แบบแม่นยำซึ่งมีความจำกัดและแม่นยำมากที่สุด เหมาะอย่างยิ่งกับการช่วยกระตุ้นคอนเวอร์ชัน ควรเพิ่มคีย์เวิร์ดกลุ่มนี้หลังจากที่คุณได้ค้นคว้าเกี่ยวกับข้อความค้นหาในการช้อปปิ้งที่ทำงานได้ดีสำหรับคุณแล้ว คุณอาจประมูลราคาต่ำลงและเห็นจำนวนการเข้าชมที่ลดลง แต่คีย์เวิร์ดกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีความเกี่ยวข้องสูง

ไม่มีตัวเลขวิเศษสำหรับจำนวนคีย์เวิร์ดที่จะเพิ่มในการระบุเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดของคุณ แต่เราขอแนะนำอย่างน้อย 25 คำ ผสมผสานความเฉพาะเจาะจงของคีย์เวิร์ดที่คุณใช้กับประเภทการจับคู่ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ เพื่อกลยุทธ์การระบุเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดที่ประสบความสำเร็จ

ต้องการดูวิธีกำหนดประเภทการจับคู่ใช่หรือไม่ รับชมวิดีโอนี้:

การระบุเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดไม่สามารถทำแบบ "ตั้งค่าแล้วปล่อยไว้" เมื่อคุณมีแคมเปญที่ทำงานมาประมาณสองสัปดาห์แล้ว คุณน่าจะมีข้อมูลเชิงลึกเพียงพอที่จะทำการตัดสินใจในการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมอย่างมีข้อมูลประกอบ สำหรับการระบุเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดของคุณ

คุณสามารถปรับปรุงและปรับกลยุทธ์คีย์เวิร์ดของคุณให้เหมาะสมได้ 3 วิธี: โดยการปรับแต่งประเภทการจับคู่ การเพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่ และการเพิ่มเป้าหมายคีย์เวิร์ดเชิงลบ

ในการปรับแต่งประเภทการจับคู่ ให้ดูในโปรแกรมจัดการแคมเปญของคุณว่าคีย์เวิร์ดและประเภทการจับคู่ใดให้ผลลัพธ์ที่ดี เช่น ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) สูงและค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS) ต่ำ หากคุณมีคีย์เวิร์ดที่ใช้ประเภทการจับคู่แบบใดแบบหนึ่งซึ่งแสดงผลน้อยไปสำหรับเป้าหมายของคุณโดยเฉพาะ คุณสามารถหยุดคีย์เวิร์ดดังกล่าวชั่วคราวได้

หากต้องการเพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่ ให้ตรวจสอบรายงานข้อความค้นหาของคุณเป็นระยะ เพื่อดูว่านักช้อปเลือกดูสินค้าของคุณอย่างไร และเพิ่มคีย์เวิร์ดประสิทธิภาพสูงที่ตรงกับเป้าหมายของคุณโดยใช้การจับคู่แบบแม่นยำ

ในการเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบ ลองพิจารณาว่ามีข้อความค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งใดที่คุณไม่ต้องการให้แสดงหรือไม่ หากคุณกำลังโฆษณาสินค้าหรูหรา ข้อความค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งจำพวก "ถูก" หรือ "ไม่แพง" มักไม่เกี่ยวข้องกับนักช้อป คุณสามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดดังกล่าว รวมถึงคีย์เวิร์ดใด ๆ จากรายงานข้อความค้นหาที่ไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์ กลยุทธ์คีย์เวิร์ดเชิงลบสามารถปรับปรุงความเกี่ยวข้องของโฆษณาได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณและปรับแต่งกลยุทธ์การระบุเป้าหมายคีย์เวิร์ดในรายละเอียดได้อีกด้วย

การสัมมนาผ่านเว็บที่แนะนำให้เรียนรู้เพิ่มเติม:

การเริ่มต้นด้วยขั้นตอนเหล่านี้ และด้วยการปรับปรุงระหว่างทาง กลยุทธ์การระบุเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดสามารถช่วยให้คุณใช้งานแคมเปญที่ประสบความสำเร็จซึ่งตรงกับเป้าหมายของคุณได้

เรียนรู้กับเราต่อไปด้วยการตรวจสอบแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ที่จำเป็นเหล่านี้ เราหวังว่าจะได้พบคุณในการสัมมนาผ่านเว็บเร็ว ๆ นี้